blurhash cover

WIP ทัศนศึกษา Data Center @KMUTT & SIT

Written by Siravij Praevisavakij on 15 May 2025 · 10 min read

Presentation Learning

สวัสดีครับบีบีเองครับ วันนี้เราก็ได้โอกาศในการเข้าทัศนศึกษาData Centerที่มหาลัยและคณะครับ โดยครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของผมและรุ่นIT30 ที่ได้เข้ามายัง Data Centerทั้งสองครับ โดยวันนี้เราเริ่มจากการที่เราได้เรียนรู้ข้อมูลเบื่องต้นเกี่ยวกับData Baseครับ โดยวิชาData Base Infrastuctureจะอยู่ในเทอมต่อๆไปครับ Screenshot 2025-05-14 224628 โดยวันนี้เราจะเริ่มจากเรียนที่ห้องแล้วไปที่Data Centerของมหาลัยและคณะครับ Screenshot 2025-05-14 224735 โดยInfrastucture แบ่งเป็น 2 ส่วนครับ

  1. Data Center Architecture (ด้านสถาปัตยกรรมโครงสร้างพื้นฐาน)
    • Physical Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ)
    • Computing Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐานด้านการคำนวน)
    • Networking Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่าย)
    • Cloud Integration (การบูรณาการระบบคลาวด์ หรือระบบSCADAนั้นเอง)
  2. Network Architecture (ด้านสถาปัตยกรรมของ Network)
    • Core Network (โครงข่ายหลัก)
    • Edge Network
    • Security Network (Firewall ฯลฯ)
    • Monitoring and Management (IDS,Door Lock,Water Leak Detection system)

Screenshot 2025-05-14 231633

อ้างอิงจากวิชาINT131 Basic Security

1. Data Center Architecture

1.Physical Infrastructure (ด้านสถาปัตยกรรมโครงสร้างพื้นฐาน)

Screenshot 2025-05-14 232419 ด้านสถาปัตยกรรมโครงสร้างพื้นฐาน เป็นส่วนแรกและสำคัญที่สุดของData Centerครับ

  1. ระบบจ่ายไฟ
    • เป็นหนึ่งในหัวใจหลักของData Centerครับ เพราะหากไฟไม่เสถียรหรือไฟดับโดยที่เราไม่มีการป้องกันหรือสำรองไว้ Hardwareที่อยู่จะพังหมดครับ
  2. Cooling systems (HVAC) => Heating, Ventilation, and Air Conditioning
    • ตรงตัวครับ ระบบควบคุมอุณหภูมิ เพราะด้วยปริมาณไฟที่เราจ่ายเข้าไปให้Serverคำนวนนั้นมหาสาร ซึ่งหากเราไม่ควบคุม เราจะพาHardwareพังจากความร้อนหรือถ้าอากาศแห้งมากไฟฟ้าสถิตจะพาพังครับ โดยData Centerส่วนใหญ่จะใช้Precision Air Conditioning (PAC)ในการควบคุมครับ
  3. Fire suppression system
    • ด้วยอุปกรณ์ทุกชนิด สามารถเกิดไฟไหม้ได้ ซึ่งแปลว่าเราต้องมีการเตรียมในกรณีไฟไหม้Data Centerครับ โดยในData Centerจะใช้เป็นระบบแก๊ส เพราะอุปกรณ์ไม่เคยถูกกับน้ำครับ โดยแก๊สจะทำหน้าที่ในการทำให้Oxygenน้อยหรือหมดไปจากห้องครับ ทำให้ไฟขาดอากาศ แต่ซึ่งแปลว่า มันอัตรายต่อคนครับ โดยบางชนิดเป็นอันตรายต่อคน
    • IMG 8947

  4. Physical security
    • ระบบความปลอดภัยทางกายภาพ เพราะระบบนี้คือกำแพงขั้นสุดท้ายก่อนที่เราจะสามารถเข้าData Centerได้ครับ ซึ่งหากเราไม่มี คนร้ายก็สามารถเข้าถึงHardwareได้แล้ว ซึ่งก็สามารถสร้างความเสียหายให้HardwareหรือSoftwareได้ จากการเข้าถึงHardwareครับ

2.Computing Infrastructure

5

  • หัวใจหลักของData Centerครับ เพราะเราต้องมีHardwareในการทำงาน ซึ่งComputing Infrastructureก็คือServerของเราเองครับ ทั้งServerแบบBareboneเอง หรือ HPCหรือStorage (NAS,SAS, Etc) ทั้งหลาย และสิ่งสำคัญสุดคือการทำBack upและRecovery Siteครับ

3.Networking Infrastructure

6

  • สิ่งที่ขาดนอกจากComputingไม่ได้คือNetworkหรือสิ่งที่เราจะไปดูในวันนี้ครับ โดยNetworkพวกนี้ก็คือสิ่งที่เราเรียนในLabแต่อยู่Scaleที่มีอุปกรณ์ที่มากขึ้นและมีความเร็วBandwidthสูงขึ้นครับ รวมถึงFirewall,DDoS Protectionที่จะป้องกันServerเราจากภัยทางCyber และสิ่งสุดท้ายคือตัวสายนั้นเองครับ

4.Cloud Integration

7

  • เพราะเราไม่สามารถให้Adminมาเฝ้าServerเราตลอดเวลาได้ เราจึงมีการนำIntegrationเข้ามาเพื่อลดWorkloadให้ฝั้งAdminโดยยกตัวอย่างHome Automationที่เราใช้ในบ้าน ก็เหมื่อนกันครับ แต่ในScaleที่เป็นEnterpriseและมีการนำหลายระบบเข้ามาเป็นหนึ่งเดี่ยวกันครับ

2. Network Architecture ( สถาปัตยกรรมด้านโครงข่าย) IMG 8883

10 สถาปัตยกรรมด้านโครงข่ายหรือเรื่องของNetworkทั้งหมดครับ โดยแบ่งเป็น 4 หัวข้อหลัก
  1. Core Network

    • หัวใจของระบบเครือข่าย ซึ่งคือเส้นหลักที่เชื่อมมาจากจุดต่างๆในมหาลัยก่อนจะออกไปยังข้างนอก โดยในที่นี้คือ Data Centerของมหาลัยครับ
  2. Edge Network

    • เส้นเลือดฝอยของระบบเครือข่ายหรือในที่นี้คือAcess PointหรือวงLanต่างๆในมหาลัยครับ
  3. Security

    • เช่นเดิมครับ ระบบรักษาความปลอดภัย เรื่องเดี่ยวกับPhysical Security โดยจะมีการใช้เรื่องZero Trustเข้ามา ,แบ่งกระจายความเสี่ยงในNetwork ,ระบบป้องกันการบุกรุกในNetwork และการเข้ารหัสในNetworkครับ
  4. Monitoring and Management

    • ไม่ต่างจากCloud Integrationครับ โดยจะเป็นการนำทั้งหมดมารวมกันก่อนจะไปเข้าสู่SCADAเป็นต้นครับ

ข้ามไปที่Data Centerก่อนนน


โดยมาหน้าData Centerของมหาลัยเราก็จะเจอกับPhysical Level Securityหรือง่ายๆก็คือประตูกันบุคคลภายนอกครับ

IMG 8880 ในข้างในก็มีการทำRaise Floorเพื่อรองรับServerที่จะมาวางครับ เพื่อกระจายน้ำหนักโดยยกความสูงที่ +60 cm IMG E9109 โดยห้องทางซ้ายจะเป็น NOC (Network Operation Center) ในอนาคตครับ โดยทางขวา จะแบ่งเป็น 3 ห้อง โดยใช้ระบบทำความเย็นจากพื้นปล่อยขึ้นมาครับ โดยห้องใกล้สุดจะเป็นห้องไฟฟ้า แต่อาจสามารถใส่Serverได้ครับ(ถ้าจำไม่ผิด) ต่อมาก็จะเป็นห้องCo-Space Sharingโดยให้คณะในมหาลัยมาตั้งServerได้ครับ ตอนนี้มีสำนักหอสมุดมาตั้งใช้งานครับ และห้องสุดท้ายคือของสำนักคอมครับ IMG 8902 IMG 8910 โดยในData CenterจะมีระบบFire AlarmและWater leak detectionครับ IMG E8898 IMG 9065 IMG 9066 IMG 8925 โดยห้องสำรองไฟจะอยู่ข้างๆครับ IMG 8930 IMG 8932 โดยขณะนี้Data Centerยังใช้ไฟจากฝั้งประชาอุทิศเป็นฝั้งเดี่ยวครับ โดนในอนาคตจะมีการเพิ่มไฟจากฝั้งพุทธบูชามาครับ IMG E8936 ในData Centerเราจะใช้PAC ห้องละ 2 ตัวครับ IMG E9101 ส่วนระบบดับเพลิงData Centerเราใช้ตัวนี้ครับ IMG E9107

เนื่องจากเราไม่ได้เข้าข้างในเลย ไม่มีภาพข้อมูลส่วนNetworkครับ


Data Center @ SIT-KMUTT

ในส่วนของคณะเรา ได้ตั้งอยู่ในตึกคณะครับ โดยมีHPCอยู่ 3 nodeใหม่และของเก่าครับ IMG 9188 โดยระบบระบายอากาศเราใช้เครื่องปรับอากาศแบบธรรมดา 2 ตัวและของใหม่ล่าสุด!!!!! PACแบบข้าง ส่วนระบบFire Alarmเราใช้เป็นระบบความร้อนครับ โดยLink Networkจะผ่านEquipment roomก่อนเข้าServerแล้วไปสำนักคอมแล้วออกInternetครับ

Equipment Room @ SIT-KMUTT

IMG 9136 โดยในห้องนี้จะเป็นการรวมสายทั้งตึกผ่านห้องนี้ โดยในห้องนี้จะมีcore switchและacess controlก่อนที่ไปที่HPCของคณะครับ

Power Room @ SIT-KMUTT

ห้องpower supplyสำรองครับ IMG E9158 IMG 9162

THE END…