สวัสดีครับบีบีเองครับ วันนี้เราก็ได้โอกาศในการเข้าทัศนศึกษาData Centerที่มหาลัยและคณะครับ โดยครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของผมและรุ่นIT30 ที่ได้เข้ามายัง Data Centerทั้งสองครับ โดยวันนี้เราเริ่มจากการที่เราได้เรียนรู้ข้อมูลเบื่องต้นเกี่ยวกับData Baseครับ โดยวิชาData Base Infrastuctureจะอยู่ในเทอมต่อๆไปครับ
- Data Center Architecture (ด้านสถาปัตยกรรมโครงสร้างพื้นฐาน)
- Physical Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ)
- Computing Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐานด้านการคำนวน)
- Networking Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่าย)
- Cloud Integration (การบูรณาการระบบคลาวด์ หรือระบบSCADAนั้นเอง)
- Network Architecture (ด้านสถาปัตยกรรมของ Network)
- Core Network (โครงข่ายหลัก)
- Edge Network
- Security Network (Firewall ฯลฯ)
- Monitoring and Management (IDS,Door Lock,Water Leak Detection system)
อ้างอิงจากวิชาINT131 Basic Security
1. Data Center Architecture
1.Physical Infrastructure (ด้านสถาปัตยกรรมโครงสร้างพื้นฐาน)
- ระบบจ่ายไฟ
- เป็นหนึ่งในหัวใจหลักของData Centerครับ เพราะหากไฟไม่เสถียรหรือไฟดับโดยที่เราไม่มีการป้องกันหรือสำรองไว้ Hardwareที่อยู่จะพังหมดครับ
- Cooling systems (HVAC) => Heating, Ventilation, and Air Conditioning
- ตรงตัวครับ ระบบควบคุมอุณหภูมิ เพราะด้วยปริมาณไฟที่เราจ่ายเข้าไปให้Serverคำนวนนั้นมหาสาร ซึ่งหากเราไม่ควบคุม เราจะพาHardwareพังจากความร้อนหรือถ้าอากาศแห้งมากไฟฟ้าสถิตจะพาพังครับ โดยData Centerส่วนใหญ่จะใช้Precision Air Conditioning (PAC)ในการควบคุมครับ
- Fire suppression system
- ด้วยอุปกรณ์ทุกชนิด สามารถเกิดไฟไหม้ได้ ซึ่งแปลว่าเราต้องมีการเตรียมในกรณีไฟไหม้Data Centerครับ โดยในData Centerจะใช้เป็นระบบแก๊ส เพราะอุปกรณ์ไม่เคยถูกกับน้ำครับ โดยแก๊สจะทำหน้าที่ในการทำให้Oxygenน้อยหรือหมดไปจากห้องครับ ทำให้ไฟขาดอากาศ แต่ซึ่งแปลว่า มันอัตรายต่อคนครับ โดยบางชนิดเป็นอันตรายต่อคน
- Physical security
- ระบบความปลอดภัยทางกายภาพ เพราะระบบนี้คือกำแพงขั้นสุดท้ายก่อนที่เราจะสามารถเข้าData Centerได้ครับ ซึ่งหากเราไม่มี คนร้ายก็สามารถเข้าถึงHardwareได้แล้ว ซึ่งก็สามารถสร้างความเสียหายให้HardwareหรือSoftwareได้ จากการเข้าถึงHardwareครับ
2.Computing Infrastructure

- หัวใจหลักของData Centerครับ เพราะเราต้องมีHardwareในการทำงาน ซึ่งComputing Infrastructureก็คือServerของเราเองครับ ทั้งServerแบบBareboneเอง หรือ HPCหรือStorage (NAS,SAS, Etc) ทั้งหลาย และสิ่งสำคัญสุดคือการทำBack upและRecovery Siteครับ
3.Networking Infrastructure
- สิ่งที่ขาดนอกจากComputingไม่ได้คือNetworkหรือสิ่งที่เราจะไปดูในวันนี้ครับ โดยNetworkพวกนี้ก็คือสิ่งที่เราเรียนในLabแต่อยู่Scaleที่มีอุปกรณ์ที่มากขึ้นและมีความเร็วBandwidthสูงขึ้นครับ รวมถึงFirewall,DDoS Protectionที่จะป้องกันServerเราจากภัยทางCyber และสิ่งสุดท้ายคือตัวสายนั้นเองครับ
4.Cloud Integration
- เพราะเราไม่สามารถให้Adminมาเฝ้าServerเราตลอดเวลาได้ เราจึงมีการนำIntegrationเข้ามาเพื่อลดWorkloadให้ฝั้งAdminโดยยกตัวอย่างHome Automationที่เราใช้ในบ้าน ก็เหมื่อนกันครับ แต่ในScaleที่เป็นEnterpriseและมีการนำหลายระบบเข้ามาเป็นหนึ่งเดี่ยวกันครับ
2. Network Architecture ( สถาปัตยกรรมด้านโครงข่าย)

Core Network
- หัวใจของระบบเครือข่าย ซึ่งคือเส้นหลักที่เชื่อมมาจากจุดต่างๆในมหาลัยก่อนจะออกไปยังข้างนอก โดยในที่นี้คือ Data Centerของมหาลัยครับ
Edge Network
- เส้นเลือดฝอยของระบบเครือข่ายหรือในที่นี้คือAcess PointหรือวงLanต่างๆในมหาลัยครับ
Security
- เช่นเดิมครับ ระบบรักษาความปลอดภัย เรื่องเดี่ยวกับPhysical Security โดยจะมีการใช้เรื่องZero Trustเข้ามา ,แบ่งกระจายความเสี่ยงในNetwork ,ระบบป้องกันการบุกรุกในNetwork และการเข้ารหัสในNetworkครับ
Monitoring and Management
- ไม่ต่างจากCloud Integrationครับ โดยจะเป็นการนำทั้งหมดมารวมกันก่อนจะไปเข้าสู่SCADAเป็นต้นครับ
ข้ามไปที่Data Centerก่อนนน
โดยมาหน้าData Centerของมหาลัยเราก็จะเจอกับPhysical Level Securityหรือง่ายๆก็คือประตูกันบุคคลภายนอกครับ